วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

กลอนเพราะๆ



ก้าวทุกก้าวสาวไปให้สุดถึง
สู่ที่ซึ่งวาดหวังอยู่ข้างหน้า
แม้แวดล้อมเรียงรายเหยียดสายตา
อย่าไปสนหากแม้นกล้าจะฝ่าฟัน

ณ จุดหมายปลายทางนั้นวางรอ
เพียงอย่าท้อหมดไฟความใฝ่ฝัน
ทุกสิ่งอย่างจะสร้างไว้เผื่อใครกัน
มิใช่เพื่อปลุกปั้นฝันเราเอง

เสียงดนตรีปลุกโลมโหมระทึก
สร้างรู้สึกในแรงจิตรให้รีบเร่ง
เพื่อทุกก้าวพร้อมเพรียงในเสียงเพลง
ด้วยความเก่งความกล้ามิล้ารอ

อุปสรรคหนักหนาสักคราครั้ง
นั้นเพียงรั้งรอจิตอย่าคิดท้อ
จงพร้อมพลิกพลาดหมายให้เกิดก่อ
เป็นพลังเติมต่อเพื่อก้าวไป

ทุกแรงหนุนรายล้อมพร้อมด้วยรัก
พึงตระหนักอย่ารวนเรนึกเฉไฉ
เมื่อแสงส่องสู่ทางกระจ่างไกล
มีคุณค่าเหนืออื่นใดในชีวิต

จวบสุดท้ายปลายทางแห่งใฝ่ฝัน
โชคชะตาจริงนั้นใครลิขิตร
เฝ้าโอบอุ้มคุ้มกันอันใกล้ชิด
เพียรครุ่นคิดจะใครเล่า..ตัวเราเอง




....................................................................................................................................................................



เรียนมอหนึ่งได้ที่หนึ่งวิชาคณิต
แต่ไม่คิดว่าแฟนรักจะหักหลัง
ขึ้นมอสองปวดร้าวใจฤทัยพัง
น้ำตาหลั่งเพราะเขาเย้ยคนเคยควง

ขึ้นมอสองประกวดกลอนกลอนสุดซึ้ง
ใครคนหนึ่งเขามีใจให้ห่วงหวง
ได้ที่หนึ่งภาษาไทยชื่นในทรวง
จนเลยล่วงมอสามเธอตามแจ

จบมอต้นเธอจากลาหาเราโง่
อภิโธ่ดวงฤดีต้องมีแผล
ขึ้นมอสี่ไม่มีสาวเหลียวแล
จึงทนเศร้าเป่าแตรไปวันวัน

ขึ้นมอห้าหม่นหมองกระดองจิต
สาวใดเคยใกล้ชิดก็เปลี่ยนผัน
เฝ้าแต่โทษดินฟ้าที่ลงทัณท์
ปล่อยเรานั้นโศกเศร้าเหงาอุรา

ขึ้นมอหกสอบชิงทุนได้เรียนต่อ
แต่ต้องน้ำคลอเพราะห่วงหา
จบมอปลายได้ที่หนึ่งทุกวิชา
กลับต้องหลั่งน้ำตา...เพราะรักเอย










ถึงต้องอยู่ห้องกระท่อมล้อมสังกะสี
ทุกข์มิมีสิ่งใดให้คิดร่ำ
จนแต่ทรัพย์ดอกหนาแต่ว่าคำ
ฉันออกรวยล่ำซำขั้นกวี

ทนเอาห้องแคบๆเข้าแอบพัก
เป็นสำนักกรองสำนวนชวนน้องพี่
มาสืบสานกานต์กลอนโลกไอ-ที
แอบแนบใส่ความหวังดีและจริงใจ

มิหมายคบพบรักสมัครมั่น
เทียบยศชั้นมี-จนเช่นคนไหน
หวังภาษาสื่อศิลปินไทย
เลื่องลือไกลเหมือนหมายจวบวายวาง

จนเข้าขั้นยังดั้นด้นสู้อุตส่าห์
ด้วยใจรักยิ่งหนักหนามิขัดขวาง
ทั้งความรู้ครูมิสอนเพียงเลือนลาง
สู้สุ่มมั่วจนเก่งกว้างทั้งกฎเกณท์

เพียงแต่มุมมองหนึ่่งของความคิด
ใช้เพียงสิทธิ์ประชาชนคนยากเข็ญ
ไม่หวังใดใฝ่สูงพบลมเย็น
เคืองลำเค็ญโปรดอภัย...ได้คิดครวญ









พูดเรื่องหมาเราเองคนยังจนจิต
อยากจะมีคู่คิดนี้สักหน
เมื่อวันก่อนเจอหมาสัปดน
มันวกวนจู๋จี๋...ยี้..กะตา

หมาร้านเจ้ขายของชำตัวดำๆ
กะอีอ้วนขายเครื่องปั๊มน่าอิจฉา
เมียกับผู้อยู่ด้วยกันก็นานมา
เขาบอกว่ามันรักกันเหมือนผัวเมีย

แอบอิจฉามันอยู่ดูสักพัก
มันดันเล่นบทรักให้ดูเสีย
พลอยเพลิดเพลินปากลิ้มก็ชิมเบียร์
น้องอาเฮียมาเจอ..หวา..ไอ้หยามัน...

เราพลางมองพลางใจก็คิดว่า
เขาจะคิดอิจฉามันไหมนั่น
แล้วเผอิญเธอหันมาสบตากัน
เราก็ดันคิดเหมาๆ...เหมือนเราเลย
 





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น