1.ในจอ
ยิ้มทุกคราเวลาออนทนนอนดึก
ใส่อารมณ์ความรู้สึกในอักษร
อ่านความคิดของหลายใครในบทกลอน
บางครั้งก็เหนื่อยอ่อนแต่เข้าใจ
มีบางเรื่องที่เรานั้นพอรู้
จึงรี่กดตอบกระทู้พร้อมคำไข
หวังว่าเพื่อนผู้ขุ่นข้องหม่นหมองใจ
คงสว่างทางไกลอันมืดมน
ไม่หวังตอบขอบคุณเฝ้าครุ่นคิด
หรือยึดติดสิ่งใดจะหวังผล
เราคือเพื่อนในจอรออดทน
ประจวบจนถึงเวลาก็มาออน
2.หลังจอ
ไม่รู้ใครมาจากไหน..ผมไม่รู้
บ้างก็มาดคุณครูคอยสั่งสอน
บ้างนางเอกเล่นบทกำหนดตอน
อ้อนพระเอกอย่างละครในทีวี
บ้างเจ้านายใหญ่โตทำโก้อวด
บ้างอย่างพระนั่งสวดไปทุกที่
บ้างเหรอหราท่าทางเหมือนนางชี
บ้างผู้ดีบ้างผู้ร้ายหลากหลายกรรม
อันจะรัก..รักใครชั่งใจอยู่
เพราะมิรู้หนแห่งกลัวเพลี่ยงพล้ำ
จากคำหวานกระดานกลอนออดอ้อนนำ
จึงพอฉ่ำชื่นจิตที่คิดไป
3.นักกลอน
ประเพณีโบราณเนิ่นนานแล้ว
กวีแก้วและเสียงกรับมิหลับไหล
เคยขับขานนานเนามาเท่าใด
จะคงอยู่ต่อไปเป็นนิรันดร์
ไม่สำคัญอันผืนแผ่นดินเกิด
ชาติตระกูลจะล้ำเลิศอันใดนั้น
สำคัญอยู่ที่หัวใจเราใกล้กัน
การสื่อสารที่สัมพันธ์เป็นกวี
ความดี-ด้อย-โดดเด่นคือคุณค่า
นั้นนำมาฝากไว้ ณ แห่งนี้
สื่อความรัก ความจริงใจ และความดี
ก่อไมตรีอีกนับร้อยด้วยถ้อยคำ
4. ไม่เข้าใจ
ในบางครั้งไม่แคล้วพบมนุษย์หนึ่ง
ผู้ไม่เคยลึกซึ้งก็น่าขำ
จะให้เปิดเผยใจในสื่อนำ
ไม่อาจทำเพื่อเคล็ดลับนั้นกับใคร
ธรรมดาอารมณ์เหนือความคิด
จะเอนเอียงน้อยนิดกันแค่ไหน
หนุ่มหรือแก่การตอบรับเช่นกลไก
จนสามารถคำนวนได้ไม่ยากเลย
5. ความจริง
อ่านและเขียนเรียนไปไม่หยุดหย่อน
ในอักษรต่างใจไว้เปิดเผย
เผื่อบรรดาท่านการุณเมื่อคุ้นเคย
ถึงจะเอ่ยรักนี้ที่เก็บงำ
ใครเดียจฉัน..นั้นก็ไม่ขอรัก
ร่วมสำนักแห่งใดไม่เหยีบย่ำ
ใครมีคุณจะแทนทดเฝ้าจดจำ
ดั่งน้ำคำนี้หนอมิขอลืม